วันอังคารที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

หลบฝนคนเดียวที่ ปาย จ.เชียงใหม่

        การเดินทาง ถัดมาที่ผมอยากจะแนะนำทุกท่าน คือ เมืองปาย ในช่วง "ฤดูฝน" (1 ก.ค. - 30 ก.ย.) จะเป็นช่วงที่ไม่ใช่ High Season จะไม่มีคนแห่กันมาแบบมืดฟ้ามัวดินกันครับ นักท่องเที่ยวจะไม่ค่อยเยอะ ผมว่ากำลังพอดีครับ ทำให้เราได้เห็นอีกมุมหนึ่งของสถานที่แห่งนี้ ดูแล้ว สุข.. สงบ.. เขียวฉอุ่ม.. ร่มรื่น.. สดชื่น.. งามตา.. บรรยากาศดีมาก ๆ เลยครับ ยังไงผมก็อยากให้ทุกท่านลองตามผมมาครับ




        มาเริ่มกันเลยครับ ผมจองเที่ยวบินไว้ไปเสาร์-กลับอาทิตย์ 2 วันครับ (มีเวลาน้อย แต่อยากไป..55+) โชคดีที่ Flights เช้าสุดของ Lion air มาเชียงใหม่ อยู่ช่วงประมาณ 8 โมงกว่าๆ เลยพอไหว ไม่เช้ามาก หลังจากขึ้นเครื่องไป บนเครื่องก็แอบโล่งๆ ก็ดีเลยครับจะได้หลับซักงีบแบบไม่แคร์สื่อบนเครื่องได้ ก่อนแอร์โฮสเตสจะประกาศว่าได้เดินทางถึงเชียงใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว...ขณะนี้เป็นเวลา...เกือบจะ 10 โมงแล้ว.. 


        ลงเครื่องมา เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย.. จากนั้นก็ไปหาพาหนะคู่ใจ...โดยการหารถเช่าสิครับ ผมคิดว่า..การขับรถเองคือการเดินทางที่สะดวกที่สุดแล้ว โดยผมได้จองรถเช่าของ SIXT ในช่วงโปรฯ มาแล้ว ได้ Toyota Corolla Altis 1.6 ALTIS (ปี 2008) ราคาวันละ 799 บาท ก็โอเคเลย เหมาะแก่การเดินทางขึ้นเขาด้วย


        แต่ก่อนที่ผมจะเดินทางไป "เมืองปาย" นั้น ผมจำต้องมาปฏิบัติภารกิจ "แก้บน" ที่เคยบนบานไว้กับหลวงพ่อทันใจแล้วสัมฤทธิ์ผลเสียก่อน ขอออกนอกเส้นทางซักครู่นะครับ เผื่อท่านไหนสนใจจะตามมาก็เชิญครับผม 


        ขับออกจากสนามบินวิ่งเส้นไปแม่ฮ่องสอน แล้วเลี้ยวขวาไปทางอุทยานหลวงราชพฤกษ์ ระหว่างทางแวะซื้อพวงดอกมะลิเพื่อไปแก้บน เพราะข้างบนไม่มีขาย จากนั้นก็ขับต่อมาประมาณ 500 ม. จะเจอวงเวียนหน้าทางเข้าอุทยานหลวงฯ ให้เลี้ยวขวาไปยัง "วัดพระธาตุดอยคำ" ไปถึงตีนดอยแล้วเลี้ยวซ้ายขับรถขึ้นไปบนดอยได้เลยครับ มีที่จอดรถเยอะพอสมควร ผมไปช่วงสายๆ ผู้คนเริ่มจะเยอะแล้วก็ยังมีที่จอดเหลือเยอะอยู่


        เมื่อเสร็จธุระจากทางนี้ ก็มุ่งหน้าเดินทางสู่ "อ.ปาย" กันเลยครับ โดยใช้เส้นทาง เชียงใหม่-แม่ริม (ทล. 107) ถึงสี่แยกแม่แตง เลี้ยวซ้ายเข้า ทล.1095 วิ่งตรงไปซัก 20 กม. จะถึงหมู่บ้านก่อนขึ้นเขา ผมแนะนำให้จอดแวะร้านข้าวซอยข้างทางเป็นอาหารกลางวันไปก่อน เที่ยงพอดี 


        รสชาติที่นี้ก็ใช้ได้เลยนะครับ จริงๆ แล้ว ข้าวซอยไม่ต้องร้านดังก็ได้ มีอร่อยอยู่ทั่วไปครับ เมื่อกินเสร็จแล้ว ควรเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย เพราะจากนี้ไป จะยิงยาวแบบไม่แวะพักจนถึง อ.ปาย เลย ซึ่งจะใช้เวลาเกือบๆ  2 ชม. เลยครับ  


        ระหว่างทางที่ผมขับรถขึ้นเขามา ดันมีฝนตกด้วยนี่สิ และตกหนักมากด้วย สมกับเป็นฤดูฝนจริงๆ ก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบครับ แต่ต้องใช้ความระมัดระวังในการขับรถค่อนข้างมากครับ บางทีอาจจะมีดินไถลหรือต้นไม้ล้มมาปิดทาง ค่อยๆ ไปครับ


        และแล้วผมก็เดินทางมาถึง "อ.ปาย" เสียที ใช้เวลาเดินทางร่วม 4 ชั่วโมง (รวมแวะกินข้าวซอยด้วย) ขณะนี้เป็นเวลาประมาณ 16:00 น. ก็มุ่งหน้าไปยังที่พักเลย โดยผมได้จองโรงแรมไว้กับ Agoda ก่อนมาแล้ว เพราะใช้ส่วนลด แต่จริงๆ ไม่ต้องจองมาก็ได้นะครับ ที่พักมีเยอะมาก มาถึงแล้วค่อยเลือกหาที่เหมาะกับเราก็ได้ ได้เห็นสถานที่จริงด้วย 

ถ้าสนใจโรงแรมเดียวกับผมก็คลิกจองที่รูปด้านล่างได้เลยครับ
>>ตำแหน่งที่ตั้ง<<

ผมได้ชั้นล่าง ในรูปข่างล่างจะอยู่ซ้ายมือครับ



        โรงแรมที่ผมจองไว้ วิวหน้าห้องค่อนข้างดีครับ มีสระว่ายน้ำอยู่หน้าห้องเลย ระหว่างไปถึง มีสาวๆ กำลังเล่นน้ำ นอนอาบแดดอยู่พอดี ผมก็ได้แต่รีบเดินเข้าห้องไป 555+ 


        โรงแรมที่ผมพัก มีจักยานให้ยืมไปปั่นด้วยครับ ผมก็เลือกคันที่คิดว่าดีที่สุด หลังจากเก็บของเข้าที่เข้าทางเสร็จแล้ว ก็ถือโอกาสไปปั่นจักรยานชมเมืองช่วง 5 โมงเย็นซักหน่อย


         ถึงจะเป็นช่วงหน้าฝน อากาศก็ไม่ได้ร้อนเท่าไหร่ แค่ชั่วโมงเดียว ผมปั่นไปได้เกือบทั่วเมืองเลย ปั่นผ่านถนนคนเดิน พ่อค้าแม่ค้าก็กำลังตั้ง กำลังจัดของกันพอดี


         พอพระอาทิตย์ตก.. อากาศก็เริ่มเย็นลง.. ผมก็เอารถจักรยานไปคืนโรงแรม อาบน้ำให้หายเหนื่อยซักหน่อย จากนั้นก็ออกมาเดินถนนคนเดินเมืองปายกัน ที่นี้ถือเป็น ไฮไลท์ของการมาครั้งนี้อย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้ ผมเริ่มเดินเข้าจากปากทางมา ก็เจอของโปรดเลย "ทุเรียน" ครับ แต่ก็ได้แค่เข้าไปส่องดู เจอราคาแล้วก็ถอย เอาไว้ให้นักท่องเที่ยวชาวจีนมาซื้อกินดีกว่า บอกกับตัวเองว่า...เดี๋ยวเราค่อยกลับไปกินแถวบ้าน 555+


พอเริ่มมืด ผู้คนก็เริ่มทะยอยกันออกมาเดินบ้างแล้วครับ


มีร้านขายของมากมาย แทบไม่ต่างกับช่วง High Season เลย



ร้านโปสเตอร์ร้านนี้ เป็นร้านแรกๆ ที่มีเลยนะครับ ตังแต่สมัยภาพยนตร์เรื่อง "รักจัง" น่าจะ 10 กว่าปีแล้ว



มีตู้ไปรษณีย์สำหรับส่งโปสการ์ดอยู่ไม่ไกลจากร้าน เขียนแล้ว.. ก็สามารถเอามาหยอดตู้ได้เลย



        เดินซักพักใหญ่ๆ ก็เริ่มหิวแล้วสิครับ มองซ้ายมองขวา หาๆ ของกินแถวนั้นได้เลย ผมเลือกซื้อบาร์บิคิวไว้เดินกิน ไม้ละ 20 บาทครับ


ก็อร่อยใช้ได้ครับ


เดินไปหน่อย ก็เจอร้านเคบับ ลองสั่งเคบับไก่ดู ท่าทางจะอร่อย..


แม่ค้าค่อนข้างพิถีพิถันในการทำครับ ทำสะอาดเลยครับ ตามมาตรฐานของอิสลามเลย


ได้มาแล้วครับ อร่อยจริงๆ ด้วย


เมื่อเดินจนทั่วแล้ว เริ่มเหนื่อย ผมก็เดินกลับโรงแรม แต่ระหว่างทางก็มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ที่นี้อุบัติเหตุเกิดบ่อยมากครับ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติก็เยอะ การเดิน การขับขี่ต้องระมัดระวังให้มากๆ


        พอเอาของที่ซื้อจากถนนคนเดินมาเก็บที่ห้องแล้ว นั่งพักซักหน่อย จากนั้นก็ไปหาร้านเหล้านั่งชิลล์ ฟังเพลง ดูบอล ดีกว่า ไปเจอร้านนึง คนไม่เยอะมาก เพลงเพราะ เบียร์ไม่แพง ตามรูปเลยครับ


ผมนั่งถึงเที่ยงคืนพอดี ได้ที่แล้ว ก็กลับโรงแรม ไปนอน หลับสบายเลยครับ

---------** จบวันที่ 1 **----------

----------------------------

        ตื่นเช้ามา (ก็ไม่ถึงกับเช้า ออกจะสายแล้วด้วยซ้ำ) ก็เดินหาข้าวเช้ากิน สรุปได้จบที่ข้าวซอยอีกแล้วครับ แต่คราวนี้เป็นร้านดัง ร้านเก่าแก่ ประจำเมืองปายเลยนะ ชื่อร้าน "น้องเบียร์" ครับ กินข้าวซอยกับหมูสะเต๊ะ ก็อร่อยไปอีกแบบ



        พอท้องเริ่มอิ่ม ก็ได้เวลาตะลอนทัวร์ต่อแล้ว ขณะนี้เป็นเวลา 10 โมงตรง ก็วางแผนไว้คร่าวๆ ว่าจะไปไหนดี ตามแผนที่เลยครับ อันดับแรกก็ต้องไปเก็บของ อาบน้ำ  check out  จากโรงแรมซะก่อน


เมื่อ check out เรียบร้อย สถานที่แรกที่ไป คือ "วัดพระธาตุแม่เย็น" แค่ 2 กม. จากที่พัก แต่ต้องขับรถขึ้นดอย เลยใช้เวลาประมาณ 10 นาทีในการเดินทาง


 ด้านบน เป็นจุดชมวิว สามารถเห็นเมืองปายในมุมสูงได้ทั้งเมือง ได้ฟิลล์ไปอีกแบบ



 มีพระอุโบสถเก่าแก่ สามารถเข้าไปทำบุญได้ มีพระสงฆ์อยู่ตลอดครับ


***************

 สถานที่ถัดมา คือ "โป่งน้ำร้อนท่าปาย" เดินทางต่ออีก 7 กม. (ใช้เวลาประมาณ 10 นาที)


เมื่อถึงแล้วก็จอดรถ จากนั้นก็ต้องเดินเข้าไปตามทาง (ยาวๆ ไปครับผม)


สองข้างทางเป็นป่าโปร่ง บรรยากาศร่มรื่นดีครับ


วันผมไปไม่ค่อยเจอคนไทยนะครับ จะเจอแต่ชาวต่างชาติ ไม่ฝรั่งก็คนจีน ซึ่งเยอะมาก


ยังครับ ยังไม่ถึง ต้องเดินไปอีกครับ 555+


ที่สุดก็มาถึงซะที มีป้ายให้ความรู้ด้วยนะครับ ใครพกไข่มา สามารถนำมาต้มได้ครับ


ลักษณะของ "โป่งน้ำร้อน" จะเป็นแบบนี้ครับ


มีสถานที่ให้นักท่องเที่ยวอาบน้ำแร่ด้วยนะครับ อุณหภูมิมีตั้งแต่เกือบร้อนจนถึงอุ่น ตามสะดวกเลยครับ


***************

สถานที่ต่อมา คือ "สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย" ขับรถออกมาทาง ทล. 1095 แล้วเลี้ยวขวาก็ถึงครับ  
แปลกอย่าง จุดนี้คนไทยดันเยอะ ผมก็ยัง งงๆ หรือผมมาสาย เขาไปมาหมดแล้ว 555+  
(สังเกตรถมอเตอ์ไซต์เพียบจุดนี้ ปล. ปายมีจุดให้เช่ามอเตอร์ไซต์และรถจิ๊ปด้วยนะครับ)


สะพานนี้ถูกสร้างขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยกองทัพญี่ปุ่นต้องการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำปาย ปัจจุบันไม่ได้ใช้แล้ว จึงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวให้ผู้คนได้มาเรียนรู้ประวัติศาสตร์กันครับ


(บน) ความคลาสสิกของตัวสะพาน (ล่าง) แม่น้ำปาย ถ่ายจากบนสะพาน


***************

สถานที่ต่อไป คือ "กองแลนหรือปายแคนยอน" ขับต่อจากสะพานมา 2 กม. ครับ


        คำว่ากองแลนมาจากภาษาพื้นเมือง หมายถึง เส้นทางสัญจรของตะกวดที่แคบและเล็ก ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติจากการถูกกัดเซาะของลมและฝน จนกลายเป็นทางเส้นเล็กๆบนสันเขา ท่ามกลางภูเขาสลับซับซ้อน และบรรยากาศที่สวยงาม


ทางเดินจะแคบและด้านข้างจะเป็นหน้าผาค่อนข้างสูงและชันมากครับ ต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินชมและถ่ายรูปนะครับ


        ลืมบอกไป จากที่จอดรถต้องเดินขึ้นมาพอควรเลยนะครับ แต่ทางเดินสะดวกสบายครับ มีเลนให้ 


***************

สถานที่ต่อไป คือ "Coffee In Love" หากาแฟ กระแทกปากบ้างบ้างดีกว่า
ร้านกาแฟที่ตั้งอยู่บนยอดเขา "สามารถดื่มด่ำกับบรรยากาศวิวที่สวยงามท่ามกลางความโรแมนติก" 



เมื่อก่อนที่นี้ดังมากครับ เป็นจุดนัดพบ หรือเป็นจุด Check in สำหรับนักท่องเที่ยวเลย 



มาร้านกาแฟทั้งที ไม่สั่งกาแฟได้อย่างไร จัดไปครับ กาแฟคาราเมล อร่อยดีครับ


***************

สถานที่ต่อไป คือ "วัดน้ำฮู" สักการะ สามพี่น้อง วีระกษัตริย์


       ด้านหลังอุโบสถ์ มีเจดีย์ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นสถูปที่ประดิษฐานพระอัฐิของพระพี่นางสุพรรณกัลยา ในสมเด็จพระนเรศวร และสมเด็จพระเอกาทศรถ


***************

สถานที่ต่อไป คือ "หมู่บ้านสันติชล" เดินเที่ยวชมบรรยากาศหมู่บ้านแบบจีน ซื้อชาและของฝาก 



มีชิงช้าให้เล่นด้วย เล่นได้จริงนะครับ ช่วงผมไปไม่มีคนเล้นพอดี



          เดินเยอะ ก็ชักเริ่มหิวแล้ว เมื่อได้มาที่หมู่บ้านจีนยูนนานแล้ว สิ่งที่จะขาดไม่ได้เลย คือ "ขาหมู หมั่นโถว" ผมมาคนเดียวนะแต่สั่งชุดใหญ่เลย จะบอกว่ากินหมดด้วยครับ 555+


***************

        เนื่องจากผมมาแค่ 2 วัน ต้องรีบกลับ 3 ทุ่ม ต้องเอารถไปคืนสนามบินเชียงใหม่ และต้องขึ้นเครื่องกลับ 4 ทุ่ม จึงมีเวลาจำกัด เลยได้แวะเก็บสถานที่สุดท้ายระหว่างทางกลับเชียงใหม่ คือ "อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง" ซึ่งเป็นอุทยานแห่งชาติที่มีสภาพป่าและธรรมชาติที่สมบูรณ์ บนภูเขาสูงชันสลับซับซ้อน เป็นป่าต้นน้ำที่มีทัศนียภาพงดงาม หากเสียเงินค่าเข้าที่โป่งน้ำร้อนท่าปายแล้วไม่ต้องเสียอีกครับ เป็นเขตพื้นที่อุทยานเดียวกัน ทางเข้าสู่ตัวที่ทำการค่อนข้างแคบ แต่บรรยากาศร่วมรื่นดีมากครับ


        ขับไปซัก 10 นาที ก็จะถึงลานจอดรถ และที่ทำการอุทยาน ท่านใดประสงค์จะพักค้างแรมที่นี้ สามารถจองเต้นท์หรือบ้านพักบริเวณที่ทำการได้เลยครับ จากที่ทำการเดินไปซักหน่อยก็จะเป็นจุดชมวิว ถ้าเป็นช่วง High Season จุดนี้แทบจะไม่มีที่ยืนครับ คนแน่นมากก




เจ้าหน้าที่กำลังเตรียมลงพันธุ์ไม้ฤดูหนาว ให้ออกดอกทันช่วง High Season ที่กำลังจะมาถึง ตอนนี้ก็ดูโล่งๆ แปลกตาดีครับ


เมื่อดื่มด่ำกับธรรมชาติจนเต็มอิ่มแล้ว จากนั้นก็ขับรถกลับเชียงใหม่ และขึ้นเครื่องกลับ กทม. ด้วยพลังที่เต็มเปี่ยม พร้อมจะสู้ทุกปัญหา อุปสรรคต่อไป 555+


****** จบการเดินทาง ******

สรุปค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
    1. ค่าเครื่องบิน (ไป-กลับ) ผมจองไว้ช่วงโปรโมชั่น ประมาณ 1,180 บาท
    2. ค่าเช่ารถ Altis 1.6 ของ SIXT วันละ 799 บาท จำนวน 2 วัน  เป็นเงิน 1,598 บาท
    3. ค่าน้ำมัน "91" ประมาณ 400 กม. แบบขึ้นเขา เป็นเงินประมาณ 1,000 บาท
    4. ค่าที่พัก ที่ อ.ปาย จาก Agoda ราคาประมาณ 500 บาท
    5. ค่าธรรมเนียมเข้าพื้นที่อุทยานห้วยน้ำดัง (คน+รถ) 80 บาท
    6. ค่ากิน+ดื่ม ทั้งทริป ประมาณ 1,000 บาท
รวมค่าใช้จ่ายในการเดินทางครั้งนี้ทั้งหมด ประมาณ 5,400 บาท

******

หวังว่าคงพอเป็นประโยชน์กันท่านไม่มากก็น้อยนะครับ >_<

ติดตามกันใหม่ในบทความถัดไป >> "เมืองโฮจิมินห์ เวียดนาม" << ครับ




หากเห็นว่า Blog นี้มีประโยชน์ รบกวนช่วยสนับสนุนผ่านช่องทางเหล่านี้ด้วยครับ
------------------------------------------------------------------------------------

จองโรงแรมที่พักกับ AGODA
------------------------------------------------------------------------------------

จองตั๋วเครื่องบินท่องเที่ยวกับสายการบินนกแอร์

------------------------------------------------------------------------------------

จองตั๋วรถทัวร์ รถไฟ เรือท่องเที่ยวกับ BusOmlineTicket


------------------------------------------------------------------------------------

ซื้อประกันการเดินทางราคาถูกกับ TQM


------------------------------------------------------------------------------------

เตรียมของก่อนออกเดินทางกับ Lazada


------------------------------------------------------------------------------------

เตรียมของก่อนออกเดินทางกับ Shopee


------------------------------------------------------------------------------------

สั่งสินค้าปลอดภาษีกับ King Power


------------------------------------------------------------------------------------

ซื้อหนังสือแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวกับ SE-ED BOOK


------------------------------------------------------------------------------------

สมัครบัตรเครดิตไว้ใช้ท่องเที่ยว KTC




------------------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น