ในวันเย็นๆ คนเดียว ณ เขื่อนจุฬาภรณ์ จ.ชัยภูมิ

(http://www.thailovetrip.com/)

        เป็นสถานที่แรก ที่ผมอยากแนะนำให้ทุกท่านได้ลองไปสัมผัส อาจจะไม่ใช้สถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อนัก แต่รับรองได้ว่า ท่านจะเต็มอิ่มกับที่นี้แน่นอนครับ สถานที่แห่งนั่น คือ เขื่อนจุฬาภรณ์ นั้นเองครับ ซึ่งเป็นเขื่อนขนาดใหญ่ที่ใช้กั้นลำน้ำพรม ในพื้นที่ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ โดยได้รับพระราชทานพระนาม สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี จากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อครั้งเสด็จฯ ประกอบพิธีเปิดเขื่อน เมื่อปี 2516 เขื่อนนี้จึงมีชื่อว่า "เขื่อนจุฬาภรณ์" ตั้งแต่นั้นมา ทั้งนี้บริเวณรอบ ๆ เขื่อนจุฬาภรณ์ เป็นพื้นที่ที่มีป่าไม้อุดมสมบูรณ์ มีสภาพอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ยิ่งถ้าเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาวที่นี้จะสวย และบรรยากาศดีมาก

        การเดินทางมาเขื่อนจุฬาภรณ์ค่อนข้างสะดวกและปลอดภัย ส่วนใหญ่ผมจะลงเครื่องที่สนามบินขอนแก่น ก็หาเช่ารถยนต์ที่สนามบินได้เลย มีหลายบริษัทรถเช่าให้เลือก เส้นทางไม่ค่อยชันมาก ผมแนะนำเครื่องซัก 1.2-1.5 ก็ไหว จากสนามบินถึงตัวเขื่อนระยะทางประมาณ 150 กม. โดยขับออกจากสนามบินเลี้ยวซ้ายไปถึงสี่แยกไฟแดง รอสัญญาญไฟแล้วกลับรถ จากนั้นยิงยาวตาม ทล.12 (ถนนมะลิวัลย์) เลยครับ ระวังเรื่องความเร็วด้วยนะครับ มีกล้องตรวจจับเป็นระยะ เส้นทางจะผ่าน อ.บ้านฝาง อ.หนองเรือ อ.ชุมแพ (แนะนำแวะพักเข้าห้องน้ำและซื้อของที่ปั้ม ปตท.ชุมแพ) แล้วเลี้ยวซ้ายเข้า ทล.2055 ที่ อ.คอนสาร จากนั้นตรงไปตามถนนคอนสาร-เขื่อนจุฬาภรณ์ ขึ้นเขานิดหน่อยก็จะถึงครับ 

     (พอดีไฟล์รูปหาย เหลือนิดเดียว เดี๋ยวผมจะกลับไปถ่ายใหม่ เร็วๆ นี้..... รอก่อนนะครับ ระหว่างนี้ดูรูปที่มีกับรูปจากท่านอื่นไปพรางๆ ก่อน 555+)

บรรยากาศระหว่างทางก่อนถึงตัวเขื่อนจุฬาภรณ์ในยามเย็น

(https://www.thetrippacker.com/)

ตัวเขื่อนจุฬาภรณ์

ภาพมุมสูงจากหน้าเขื่อน บรรยากาศงดงาม

(http://www.painaidii.com)

ทะเลสาบ (อ่างเก็บน้ำ) เหนือเขื่อน

สันเขื่อนเป็นเขื่อนแกนดินเหนียวหินทิ้ง

มีทางน้ำล้นอยู่ด้านซ้ายของสันเขื่อน (มองจากหน้าเขื่อน)

เป็นเขื่อนที่สูงเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศไทย

ช่องทางบนสันเขื่อนกว้าง รถ 2 คันสามารถขับสวนกันได้ ด้านขวาของสันเขื่อนเป็นสวนสาธารณะ จุดพักผ่อน หน่อยใจ (มองจากหน้าเขื่อน) 

สถานที่ท่องเที่ยวรอบๆ เขื่อนจุฬาภรณ์

จากตัวเขื่อนจุฬาภรณ์ย้อนกลับมาเส้นทางเดิมประมาณ 7 กม. ด้านซ้ายมือ จะมีจุดชมวิวมุมสูง ที่สามารถมองเห็น "ภูกระดึง" ได้อยู่

บรรยากาศรอบๆ ก็สวยดี มองได้ไกลสุดลูกหูลูกตาครับ

ถัดจากจุดชุมวิวประมาณ 4 กม. จะมาถึง "สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าภูเขียว" ครับจะอยู่ด้านขวา ขับรถเข้าไปได้เลย ด้านในมีที่จอดรถเยอะครับ

ด้านในเข้าชมฟรีนะครับ มีสัตว์ป่าต่างๆ มากมาย ผมเอาตัวอย่างมาให้ดูประมาณนึงแล้วกันนะครับ

(https://twitter.com/hashtag/สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าภูเขียว/)

(https://twitter.com/hashtag/สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าภูเขียว/)

(https://twitter.com/hashtag/สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าภูเขียว/)

หรือจากจุดชุมวิวเลี้ยวขวาเข้าไป "ทุ่งกระมัง" ระยะทางประมาณ 25 กม. ท่านจะพบกับโลกอีกโลกหนึ่งครับ เป็นโลกของสัตว์ป่าและธรรมชาติ บรรยากาศดี และงดงามมากครับ

(https://www.youtube.com/watch?v=JTfr1MlUfHU ของคุณ RadioThailand Chumphae)

มีฝูงกวางออกมาหากินให้เห็นกันแบบสดๆ 555+

ดูมันชิลล์มากครับ ถิ่นของเขา

พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นลานทุ่งหญ้ากว้าง ไม่แปลกที่จะเห็นสัวต์ป่าออกมาหากินบริเวณนี้ครับ 

(https://www.thetrippacker.com/)

สถานที่สุดท้าย... ส่วนใหญ่จะเอาไว้แวะพักตอนขากลับ เพราะอยู่ในเส้นทางออกจากเขื่อนพอดี จากตัวเขื่อนขับรถย้อนกลับมาทางเดิมประมาณ 30 กม. จะมีป้าย "น้ำผุดทัพลาว" ให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปเลยครับ ขับรถเข้าไปประมาณ 4 กม. ก็จะถึงครับ

(http://chaiyaphumfocus.com/)

ในอดีตนั้นเป็นป่าดงทึบ เล่ากันว่าในยุคล้านช้าง มีกองทัพที่เดินทัพจากทางภาคเหนือ มาสำรวจและแวะพัก กองทหารม้า ขณะนั้นได้ไปลบหลู่เจ้าที่ บางประการ บ้างก็ว่า ด้วยการที่ไปโค่นต้นไม้ใหญ่ ทำให้ท่อนไม้กลิ้งเปลี่ยนทิศทางล้มทับ ทหารและม้าไปหลายสิบนาย จึงเป็นที่มาของชื่อน้ำผุดทับลาว ในอีกแง่มุมหนึ่งนั่นเอง บางครั้งก็มีผู้สะกดเป็นทัพลาว หมายถึงมีกองทัพจากที่อื่นมาตั้งทัพชั่วคราว ที่บริเวณน้ำผุดธรรมชาตินั้น คำว่าทัพลาวในที่นี้ หมายถึงไม่แน่ชัดว่ามาจากจังหวัดหรือประเทศใด? อันนี้เป็นที่มาของชื่อครับ

(http://chaiyaphumfocus.com/)

น้ำใสมากครับ น่าเล่นสุดๆ  บางจุดก้เหมือนน้ำตกย่อมๆ เลยครับ 

(http://chaiyaphumfocus.com/)

ที่พักบริเวณเขื่อนจุฬาภรณ์

1. ที่พักของตัวเขื่อน มีบ้านพักหลายขนาดครับ แต่ที่ผมไปพักจะเป็นหลังนี้ครับ บ้านฟ้าสาง

2. ที่พักในทุ่งกระมัง มีเป็นบ้านพักและจุดกางเต็นท์ครับ ตามสะดวกเลย แต่หากจะเข้าพักบ้านพักที่ทุ่งกระมัง ต้องโทรมาติดต่อกับเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ จากนั้นทำหนังสือขออนุญาตล่วงหน้า 15–30 วัน โดยราคาบ้านพักแล้วแต่นักท่องเที่ยวจะให้โดยให้เป็นค่าบำรุงสถานที่ ส่วนเรื่องของอาหารการกิน ถ้าไม่ได้เตรียมมาเอง ที่นี่มีบริการครัวสวัสดิการโดยต้องแจ้งล่วงหน้าตอนจองห้องพัก ทางแม่ครัวจะเตรียมรายการอาหาร ให้เองตามความเหมาะสม  ส่วนค่าอาหารนั้นคิดเป็นรายมื้อต่อหัว เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียวมีไฟฟ้าให้ใช้แค่เวลา 18.30 – 21.30 น. ควรเตรียมไฟฉายหรือแบตเตอรี่โทรศัพท์และกล้องมาให้พร้อมด้วย

(https://www.thetrippacker.com/)

หากเห็นว่า Blog นี้มีประโยชน์ รบกวนช่วยสนับสนุนผ่านช่องทางเหล่านี้ด้วยครับ

------------------------------------------------------------------------------------

จองโรงแรมที่พักกับ AGODA

(คลิก)

------------------------------------------------------------------------------------

จองตั๋วเครื่องบินท่องเที่ยวกับสายการบินนกแอร์

(คลิก)

------------------------------------------------------------------------------------

จองตั๋วรถทัวร์ รถไฟ เรือท่องเที่ยวกับ BusOmlineTicket

(คลิก)

------------------------------------------------------------------------------------

ซื้อประกันการเดินทางราคาถูกกับ TQM

(คลิก)

------------------------------------------------------------------------------------

เตรียมของก่อนออกเดินทางกับ Lazada

(คลิก)

------------------------------------------------------------------------------------

เตรียมของก่อนออกเดินทางกับ Shopee

(คลิก)

------------------------------------------------------------------------------------

สั่งสินค้าปลอดภาษีกับ King Power

(คลิก)

------------------------------------------------------------------------------------

ซื้อหนังสือแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวกับ SE-ED BOOK

(คลิก)

------------------------------------------------------------------------------------

สมัครบัตรเครดิตไว้ใช้ท่องเที่ยว KTC

(คลิก)

------------------------------------------------------------------------------------